ไทยติดโผ 1 ใน 21 ประเทศเป้าหมาย ‘ภาษีตอบโต้’

27 มีนาคม 2568
ไทยติดโผ 1 ใน 21 ประเทศเป้าหมาย ‘ภาษีตอบโต้’

ไทยอาจเผชิญภาษีสหรัฐฯ ชุดใหม่ หลังทรัมป์ประกาศแผนเก็บภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ รวมถึงไทยที่ติดโผ 1 ใน 21 ประเทศเป้าหมาย หวังลดขาดดุลการค้า

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์กำลังจะถูกประกาศในเร็วๆ นี้ แม้ว่าเขาจะระบุว่า มาตรการภาษีที่เขาขู่จะใช้ทั้งหมดอาจไม่ถูกนำมาใช้ในวันที่ 2 เมษายน และบางประเทศอาจได้รับการยกเว้น ซึ่งเป็นท่าทีที่วอลล์สตรีทมองว่าเป็นสัญญาณของความยืดหยุ่นในประเด็นที่สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินมาหลายสัปดาห์

ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์ได้เปิดแนวรบใหม่ในสงครามการค้าโลก โดยการประกาศเก็บภาษี 25% ต่อทุกประเทศที่ซื้อน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติจากเวเนซุเอลา ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

ที่ทำเนียบขาว ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ภาษีใหม่ทั้งหมดอาจจะยังไม่ถูกประกาศในวันที่ 2 เมษายน และเขาอาจให้ “หลายประเทศ” ได้รับการยกเว้นจากภาษี แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนหนึ่งปฏิเสธที่จะระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนว่า ภาษีที่เฉพาะเจาะจงกับแต่ละอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ ยา หรือชิปเซมิคอนดักเตอร์ จะมีผลเมื่อใดและขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประธานาธิบดี

เจ้าหน้าที่รายนั้นเตือนว่าไม่ควรคาดหวังว่าจะมีการยกเว้นภาษี โดยกล่าวว่า ประธานาธิบดีมุ่งมั่นที่จะบังคับใช้ภาษีแบบต่างตอบแทนที่เข้มข้นมาก ประชาชนควรคาดการณ์ถึงสิ่งนั้น

ก่อนหน้านี้ Bloomberg และ Wall Street Journal รายงานว่า รัฐบาลกำลังจำกัดขอบเขตของภาษีที่ทรัมป์เคยกล่าวว่าจะประกาศในวันที่ 2 เมษายน โดยอาจชะลอการใช้ภาษีที่เจาะจงตามอุตสาหกรรมออกไป

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันจันทร์ด้วยการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่ารายละเอียดของภาษีที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า อาจไม่รุนแรงเท่าที่คาดการณ์ไว้ โดยดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเกือบ 1.8% ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสองสัปดาห์

ในขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ยา และอะลูมิเนียมใน อนาคตอันใกล้นี้โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในกรณีเกิดสงครามหรือปัญหาอื่นๆ

ทรัมป์ระบุว่าภาษีนำเข้ารถยนต์จะถูกประกาศภายในไม่กี่วันข้างหน้า และเสริมว่าจะตามมาด้วยภาษีต่อไม้แปรรูปและชิปเซมิคอนดักเตอร์ในระยะต่อไป

“เราถูกประเทศอื่นเอาเปรียบมาโดยตลอด”

ทรัมป์กล่าวหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยคาดการณ์ว่าภาษีเหล่านี้จะสร้างรายได้ ให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้สามารถคงอัตราภาษีให้ต่ำหรืออาจลดลงได้อีก

ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศต่างๆ ยังสามารถหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีได้ หากพวกเขาลดภาษีของตนลง หรือย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ เขายังประกาศในวันจันทร์ว่า Hyundai Motor Group ของเกาหลีใต้จะลงทุน 21 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ

การลงทุนดังกล่าวจะรวมถึงการสร้างโรงงานผลิตเหล็กแห่งใหม่มูลค่า 5.8 พันล้านดอลลาร์ในรัฐลุยเซียนา โดยเขากล่าวที่ทำเนียบขาวร่วมกับประธาน Hyundai นาย Euisun Chung และผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา Jeff Landry

ทรัมป์กล่าวว่าการเก็บภาษีในวันที่ 2 เมษายนจะถือเป็น “วันปลดปล่อย” สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้าสินค้าทั่วโลกที่มีมูลค่าถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยการปรับอัตราภาษีของสหรัฐฯ ให้เท่ากับที่ประเทศอื่นเรียกเก็บ และตอบโต้ต่ออุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศเหล่านั้น

ทรัมป์กล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ว่าเขาตั้งใจจะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ “ราวๆ 25%” รวมถึงภาษีในอัตราเดียวกันต่อการนำเข้าชิปเซมิคอนดักเตอร์และยา แต่ต่อมาเขาตกลงที่จะเลื่อนการเก็บภาษีรถยนต์บางส่วนออกไป หลังจากบริษัทรถยนต์รายใหญ่ 3 แห่งของสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการยกเว้น

นับตั้งแต่รับตำแหน่งในเดือนมกราคม ทรัมป์ได้ดำเนินนโยบายภาษีอย่างเร่งด่วน ซึ่งมีทั้งการขู่ การเปลี่ยนแปลง และการเลื่อนกำหนด อย่างต่อเนื่อง โดยทีมงานด้านการค้าของเขายังคงกำหนดนโยบายไปพร้อมๆ กับการประกาศใช้

จนถึงตอนนี้ ได้ประกาศภาษีนำเข้าจากจีน 20% แบบใหม่ ฟื้นฟูภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั่วโลกในอัตรา 25% และเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% หากประเทศเหล่านี้ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิกฤตการณ์การใช้เฟนทานิลเกินขนาดในสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนของรัฐบาลทรัมป์ ได้แก่ รัฐมนตรีคลัง Scott Bessent และที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว Kevin Hassett กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลคาดว่าจะเน้นการประกาศภาษีแบบต่างตอบแทนในวันที่ 2 เมษายน ไปยังกลุ่มประเทศที่มีดุลการค้าสูงสุด และมีอุปสรรคทางการค้าทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษีสูง

Bessent เรียกประเทศเหล่านี้ว่า “Dirty 15” หรือ “กลุ่มสกปรก 15” ซึ่งหมายถึง 15% ของประเทศต่างๆ ขณะที่ Hassett กล่าวกับ Fox Business ว่าจะเน้นที่ 10–15 ประเทศ

Ryan Majerus อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันทำงานที่สำนักงานกฎหมาย King & Spalding กล่าวว่า ไม่ว่าจะมีการเก็บภาษีเฉพาะกลุ่มในวันที่ 2 เมษายนหรือภายหลัง รัฐบาลก็จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการตรวจสอบตามมาตรา 232 อย่างเข้มงวด เหมือนที่เคยดำเนินการกับไม้และทองแดง

“เมื่อพิจารณาว่ารัฐบาลแสดงท่าทีกังวลเกี่ยวกับการยกเว้นและข้อยกเว้นอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าบางประเทศน่าจะต้องเผชิญกับภาษีใหม่ในต้นเดือนเมษายน แต่ประเทศอย่างสหราชอาณาจักรและอินเดียก็กำลังพยายามหลีกเลี่ยงภาษีเหล่านี้ด้วยการเข้าพบทำเนียบขาว”

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า ประเทศที่เร่งรุดเพื่อเจรจาในช่วงแรก อาจไม่สามารถดำเนินการได้รวดเร็วพอที่จะหลีกเลี่ยงภาษีอย่างสมบูรณ์ เพราะการประเมินยังคำนึงถึงอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีซึ่งลบล้างได้ยากกว่า

ในคำร้องขอความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับภาษีแบบต่างตอบแทน สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และประเทศที่มีดุลการค้าสินค้าเกินดุลสูงสุด

USTR ได้ระบุประเทศที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน สหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน ไทย ตุรกี สหราชอาณาจักร และเวียดนาม ซึ่งรวมกันแล้วครอบคลุมการค้าสินค้าทั้งหมดกับสหรัฐฯ ถึง 88%


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.